เทคนิคทำแบรนด์ของตัวเองให้ขายดี

 เทคนิคทำแบรนด์ของตัวเองให้ขายดี ในยุคที่เทคโนโลยีหมุนรอบตัวเรา การซื้อขายผ่านทางออนไลน์เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ทำให้เทรนด์การตลาดออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้คนนิยมหันมาสร้างแบรนด์ตัวเองกันอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์เครื่องสำอาง แบรนด์เสื้อผ้า แบรนด์อาหาร รวมไปถึงแบรนด์อาหารเสริม เนื่องจากผู้คนให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านี้มากขึ้น ทั้งอยากดูแลผิวพรรณแต่ก็ยังหาสูตรที่ตรงใจไม่ได้ หรืออยากใส่เสื้อผ้าแนวนี้แต่ไม่มีขนาดให้เลือกมากนัก หลาย ๆ คนจึงออกมาสร้างแบรนด์ตัวเอง คิดสูตรเอง ออกแบบเอง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีหลากหลายแบบ

แม้หลายคนจะรู้แล้วว่าการสร้างแบรนด์ของตัวเองนั้นมีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง แต่ก็อาจจะยังเกิดคำถามขึ้นว่าแล้วหากเทียบกับการทำธุรกิจแบบซื้อมาขายไปล่ะ แบบไหนดีกว่ากัน? ซึ่งต้องบอกเลยว่าทั้ง 2 แบบนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งคู่ ขึ้นอยู่ความต้องการหรือเป้าหมายในการทำธุรกิจ รวมถึงเงินลงทุนของแต่ละคนมากกว่า โดยการสร้างแบรนด์ตัวเองจะเป็นการลงทุนในระยะยาว จำเป็นต้องใช้เวลาและเงินลงทุนที่สูง ส่วนการซื้อมาขายไปนั้นจะสามารถเริ่มต้นได้ง่ายและใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่า

ข้อดีของการสร้างแบรนด์ของตัวเอง
1.ได้มีแบรนด์เป็นของตัวเอง ซึ่งการมีแบรนด์เป็นของตัวเองก็จะทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกำไรตอบแทนที่คุ้มค่า มีโอกาสที่จะทำให้เติบโตได้

2.เป็นการเปิดตลาดการค้า ถ้าหากว่าแบรนด์ของผู้ประกอบการเป็นที่รู้จักของลูกค้า สินค้ามีคุณภาพ ก็จะทำให้ธุรกิจดีขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังเป็นการเปิดตลาดให้สินค้าออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น

3.ได้บริหารจัดการด้วยตัวเอง เพราะจะได้บริหารเงินทุน การทำการตลาด การโปรโมท ทำให้ได้ประสบการณ์ในการบริหารจัดการเพิ่มมากขึ้น

4.มีโอกาสประสบความสำเร็จ หากว่าแบรนด์สินค้าติดตลาด มีคนใช้เยอะ ก็จะทำให้ผลกำไรที่ได้รับนั้นเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ

ข้อเสียของการทำแบรนด์ของตัวเอง
1.ใช้ต้นทุนสูง เพราะว่าผู้ประกอบการจะต้องลงทุนตั้งแต่การผลิตการทำการตลาด การโปรโมท การจัดส่งสินค้า เป็นต้น

2.มีโอกาสขาดทุน สืบต่อเนื่องมาจากต้นทุนในการผลิตหากว่าใช้ต้นทุนในการผลิตที่สูงแล้วแบรนด์สินค้าไม่ได้รับความนิยมหรือขายสินค้าไม่ได้ โอกาสขาดทุนก็ย่อมจะมีสูง

3.ประสบความสำเร็จช้า ในกรณีที่ผู้ประกอบการไม่มีเงินทุน ไม่มีการทำการตลาดหรือการโปรโมทที่ดีพอ ก็จะส่งผลถึงแบรนด์สินค้าที่อาจจะประสบความสำเร็จช้ากว่าที่คาดหวัง

4.ต้องระวังในเรื่องของข้อกฎหมาย เพราะการขายสินค้าในปัจจุบันจะต้องดีมีคุณภาพและมีมาตรฐาน ถ้าเกิดว่าสินค้าไม่มีคุณภาพและไม่มีมาตรฐาน อาจจะถูกลูกค้าฟ้องร้องเอาได้

การเลือกช่องทางการขายเป็นสิ่งสำคัญเช่นในการเริ่มสร้างแบรนด์ตัวเอง เพราะช่องทางการขายในปัจจุบันมีมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทั้งการขายสินค้าหน้าร้าน หรือขายผ่านทางออนไลน์ หรือจะขายทั้งสองอย่างควบคู่กัน ซึ่งแต่ละช่องทางก็จะมีเทคนิคการขายและการตลาดแตกต่างกัน รวมถึงช่องทางการรับรู้ของลูกค้าที่แตกต่างกันด้วย เมื่อเรามีช่องทางการขาย เทคนิคการขายก็จะตามมา

ในขั้นตอนการเลือกช่องทางการขาย คุณอาจจะต้องดูกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพื่อประกอบพฤติกรรมการซื้อด้วย หากรู้ว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของเราเหมาะกับกลุ่มลูกค้าแบบไหนก็จะช่วยให้เราทำการตลาดและทำธุรกิจง่ายขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ครีมของเรามีกลุ่มลูกค้าเป็นวัยเรียนจนถึงวัยทำงาน และเราไม่มีหน้าร้านก็อาจจะเลือกช่องทางการขายแบบออนไลน์มากกว่า โดยใช้เทคนิคการตลาดแบบออนไลน์ อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเช่าร้านหรือเสียค่าเช่าพื้นที่เพื่อวางจำหน่าย เป็นต้น


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฉนวนกันเสียง วัสดุช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก

ฉนวนกันเสียง และ แผ่นดูดซับเสียง

วัสดุกันเสียงรบกวน มีประโยชน์อย่างไร